บันทึกประจำวันคลื่นสมอง หน้า2

 บันทึกประจำวันคลื่นสมองด้วย muse ผ่านแอพ mind monitor หน้า 2

(หน้า 1 บันช่วง กรกฏา-สิงหา 2546 อยู่ที่ https://bodhineuro.blogspot.com/2021/08/mind-monitor.html )

1 ก.ย. 2564

เดินจงกรม 80 นาที ก่อนเดินรู้สึกปวดหัวหน่อยๆ มึนๆง่วงๆนิดๆ เดินไปก็ดูท้องที่กำลังอิ่มข้าวไป เดินแบบสบายๆ ช่วง q2 เริ่มรู้สึกถึงความสุขจากลมหายใจทุกครั้งที่หายใจเข้าจะรู้สึกสดชื่นชื่นใจหายใจออกก็สบาย ช่วง Q4 ความสุขที่ชัดเจนงั้นเหมือนจะลดลงแต่ก็มีความสุขอันละเอียดอ่อนในการหายใจอยู่ ก็ดูสลับฟุ้งสลับง่วงไป q8 สุดท้ายง่วงสุดหาวหวอด


นั่งสมาธิ 20 นาที ช่วงกลางวันร้อนลืมตามาเปิดพัดลม

นั่งสมาธิ 24 นาที ใล่ระลึกรู้ความรู้สึกตามแนวกระดูกสันหลังจากก้นกบขึ้นมาที่หัวกะโหลกประมาณจุดละ 10 ลมหายใจช้าๆ หลังจากนั้นก็นั่งรู้สึกตัวๆตัวและโฟกัสไปที่ท้องพองยุบไปพร้อมลมหายใจ
หลังจากเสร็จจากนั่งสมาธิครั้งก่อนหน้าก็บันทึกค่าไว้ต่อส่งข้อมูลจากเครื่องหนึ่งไปอีกเครื่องนึงทำการแปลงกราฟบันทึกกราฟเขียนบรรยายลงเว็บเสร็จแล้วไปโพสต์ลงใน facebook กลุ่ม muse headband thailand ตอนท้ายมีคนโทรเข้ามาว่ามีพัสดุมาส่ง
นั่งสมาธิ 21 นาที ครึ่งแรกดูลมครึ่งหลังดูท้องพองยุบ
นั่งสมาธิ 30 นาที 10 นาทีกว่าแรกไล่ดูกายตามแนวกระดูกสันหลังจากก้นกบขึ้นหัว แล้วดูทั้งตัวทั่วๆ แล้วดูท้องพองยุบ

2 ก.ย. 2564

 นั่งสมาธิ 20 นาทีมีการเกร็งตัวและขณะหลายไปในความคิดมีขยับเขยื้อนเคลื่อนตัวเยอะ
เดินจงกรม 1 ชั่วโมง
นั่งสมาธิ 50 นาทีที่กุฏิกลางน้ำไล่ความรู้สึกแนวกระดูกสันหลังจากก้นกบไปหัวกระโหลกจุดละ 32 ลมหายใจ
เดินกลับกุฏิ 5 นาทีถึงก็ตีแล้วเดินต่ออีก 15 นาที
ยืน 2 นาที horse stance 2 นาที ยืน 2 นาที
นั่งสมาธิ 17 นาทีมีไล่ดูกายดูลมช่วงท้ายหาวหวอดๆ
3 ก.ย. 2564
หลังจากอิ่มกลับมากุฏินั่งสมาธิ 12 นาทีนั่งหลังง่วงเยอะก็หยุดเท่านั้นไปเดินต่อ
เดินจงกรม 1 ชั่วโมง เครื่องวัดมันมีปัญหานิดหน่อยแต่ก็พอดูคร่าวๆได้ว่า
แพทเทิร์นแบบหลับสนิท การเดินก็มีรู้บ้างหลงบ้างง่วงบ้างตื่นบ้าง

24 นาที ถ่ายรูปทางจงกรม โอนไฟล์ระหว่างเครื่อง generator กราฟเอาลงเว็บ อ่าน facebook

นั่งสมาธิ 14 นาทียิ่งนานยิ่งง่วง
Sun gazing ผ่านพุ่มไม้ 9 นาที เครื่องมีปัญหาบางช่วง แต่ดูเหมือนว่าแอลฟาสูงมากในช่วงที่ทำงานได้

พักและวิดพื้น อย่างละ 1 นาที 
สลับกัน 3 รอบแล้วพัก
นั่งสมาธิ 44 นาที หลังจากออกกำลังกายและอาบน้ำแล้วมานั่งจึงรู้สึกตื่นตัวเป็นพิเศษ รับรู้เสียงหัวใจเต้นและกายตุบๆๆไปทั่วร่าง ช่วงหลังเริ่มหาวแล้วง่วง เครื่องเริ่มมีปัญหาอีก
4 ก.ย. 2564
ออกกำลัง กำแบ,หมุนคอ 


นั่งสมาธิ 10 นาทีหลังออกกำลังกายฝนตกอากาศเย็นรับรู้หลังตั้งตรง ส่วนลมหายใจรู้แบบชำเลืองไม่รู้โดยตรงเพื่อให้ผ่อนคลายไม่เกร็ง

นั่งสมาธิ 5 นาทีเริ่มจากคลายขามือหัวอย่างละลมหายใจยาวๆ แล้วไล่จักระทีละจุดจุดละ10ลมหายใจชำเลืองดูสบายๆ

คุยโทรศัพท์
กินอาหาร
เดินจงกรม 1 ชั่วโมงรู้บ้างหลงบ้าง หลงคิดเพ้อฝันไปเรื่อยเปื่อย หลงคิดเรื่องที่ผ่านมา แต่ก็ตื่นรู้ตัวขึ้นมาได้เป็นระยะ
หลังเดินเสร็จบันทึกต่อ บันทึกข้อมูลเขียนข้อมูลกราฟ เปิดดู facebook เวลา 12.02 แกมม่าสูง โพสต์ถามสิ่งที่สงสัยใน heart mind Alchemy lab group

นับลมหายใจ ลืมตา 5 นาที/หลับตา 5 นาที/ 2รอบ
ช่วงหลังมาดูเหมือนว่าลืมตากับหลับตาค่า alpha พอกัน แต่เมื่อดูลงรายละเอียดปรากฏว่าหลับตาอัลฟ่าจะมีvarianceเยอะกว่า



หลังออกกำลังกายและอาบน้ำเสร็จมานั่งสมาธิจึงรู้สึกตื่นตัวเป็นพิเศษ ช่วงแรกดูลม นั่งจนปวดก็รู้พัฒนาไปเรื่อยๆสัก 1 รอบล่างขึ้นบนแล้วค่อยเปลี่ยนท่า ช่วงท้ายพิจารณาไตรลักษณ์

5 ก.ย. 2564

เดินจงกรมสลับนั่งสมาธิ อย่างละ 10 นาทีสลับกัน จบที่นั่ง 30 ขณะช่วงเริ่มทำต้นๆยังอิ่มง่วงๆ แต่ตอนเดินและนั่งครั้งหลังสุดตื่นตัว เผลอนานหน่อยแต่ก็ยังรู้ตัวอยู่ได้เรื่อยๆ

หัดสวดมนต์บทชุมนุมเทวดา
สวดชุมนุมเทวดา 2 รอบ รวม 5 นาที
นั่งลืมตาไล่ดูการจากหัวลงล่าง 5 นาที นั่งหลับตาไล่ดูจากหัวลงล่าง 5 นาที สวดชุมนุมเทวดา 2 นาที
Plank  นั่งพัก2นาที, ตอนplank gamma สูงขึ้น, หลังplank gammar ต่ำกว่าตอนนั่งพักครั้งแรก

6 ก.ย. 2564
นั่งสมาธิ 56 นาที 10 นาทีแรก เคลื่อนไหวมือท่า 1, 10 นาทีถัดมาเคลื่อนไหวมือท่า 2, คาดว่าเดลต้าต่ำตื่นตัวเพราะเคลื่อนไหว, ที่เหลือนั่งนิ่งดูลม บางช่วงเผลอไหลไปอยู่ในความคิดยาว คาดว่าช่วงเดลต้าโด่ขึ้นมาเป็นช่วงฝันไปในความคิด
นั่งธรรมดา 2 นาที สวดชุมนุมเทวดา 4 รอบประมาณรอบละ 2 นาที รอบแรกหลังคาส่วนรอบอื่นเปิดตา ฟังเสียงที่อัด 2 นาที


สวดชุมนุมเทวดา 2 นาที 1 จบ ฟังเทศน์สวดอีก 2 นาที นั่งขยับมือท่าน 1 และถ้า 2 สักพักแล้วนั่งนิ่ง รายการเจ็บก้นกบขึ้นสมองแล้วดูลมหายใจ


Heart mind coherent, breath from heart 10 min. Thank each part and feel good feel with others 10 min
7 กย 2564
นั่งสมาธิ 43นาที เคลื่อนไหวมือท่า 1 และท่า 2 อย่างละ 10 นาทีดูลมหายใจที่ตำแหน่งหัวใจสักพักแล้วปล่อยดูสบายแล้วไล่ความรู้สึกเหนื่อยกายช่วงหลังมีร่างกายเผลอขยับบ่อยไปพร้อมกับความคิด รู้สึกถึงความเกรงความปวดความเมื่อยแทรกในกล้ามเนื้อในร่างกาย
เดินจงกลม 75 นาที นาที 25 เริ่มง่วงจนเผลอหลับขณะยืนจะกลับตัว ไปหลายที
จำไม่ได้
จำไม่ได้
ยุ่งเหยิง
ยุ่งสุด


สมาธิตื่นตัวหลังยุ่ง ไล่กายล่างขึ้นบนแล้วดูลมหายใจ

8 กย 2564
cultivating compassion ใน ROV app
เคลื่อนไหวมือท่าที่1และ2อย่างละ5นาที ดูลม นึกถึงบุญคุณพ่อแม่ผู้คนที่เกี่ยวข้อง รู้สึกตึบๆระหว่างกลางคิ้วและโพรงจมูก

9 กย 2564

นั่งสมาธิ เริ่มจากกำแบนิดหน่อย เจ็บอกค่อนขวาเล็กน้อย

10 กย 2564

ปวดหัว มีเจ็บที่มือที่สะโพกเล็กน้อย เมื่อวานลื่นล้ม นั่งฟุ้งไปเรื่อย รู้ตัวรู้ลมได้น้อยมาก บางทีระหว่างคิดเผลอเกร็งกายเผลอขยับ
ก่อนหน้านี้ใช้museจับนกปรากฏว่าครั้งนี้เริ่มจับนกได้ดีกว่าทุกครั้งที่ผ่านๆมา เริ่มเห็นว่าต้องลดพยายามบังคับ ให้ลมไปเองโดยบังคับให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ มันก็ทุ่มใจเต็มร้อยอยู่กับลมหายใจ เผลอไปคิดก็กลับมาอยู่กับลมหายใจ เวลาลมหายใจเข้าจะเด่นตรงตันเถียนล่าง เวลาลมหายใจออกจะเด่นตรงโพรงจมูกหว่างคิ้ว , ครานี้ alpha ดูขึ้นสูงเป็นพิเศษ การพัวพันทั้งสาม มีเทต้าเด่นกว่าอีกสองตัว
จะมี อัลฟา ตกตพแหน่งทุก 5 นาทีซึ่งตรงกับที่เราตั้งให้นาฬิกาดังทุก 5 นาที
12กย2564
วันนี้เบลอๆเผลอไผลไหลไปในความคิด เหม่อเยอะเป็นพิเศษเลยลองมานั่งดูในตอนเช้า ลมหายใจธรรมดาระหว่างนั่งก็หลงผลอเยอะ
นั่งสมาธิ 26 นาที ท้องยังอิ่มจากโรงน้ำร้อน ช่วงท้ายนึกถึงบุญคุณของสิ่งต่างๆโดยเฉพาะบุคคลที่อยู่ที่วัดดอยหลายคน เกิดซาบซึ้งน้ำตาไหลนิดๆ รู้สึกถึง flow อันละเอียดอ่อนทั่วกายโดดเด่นที่หัวปลายมือปลายเท้า

ดูจากกราฟเวลาจริงจริงๆแล้วเร็วพัวพันไปกับอีก 2 ตัวแต่เนื่องจากมีความแปรปรวนของเดลต้ามากเลยดูสูงกว่าปกติซึ่งครั้งนี้ไม่มีง่วงเลย
สวดชุมนุมเทวดา 2 รอบแล้วเปิดฟังที่บันทึกทีนึงรวม 6 นาที
หัดสวดบทอัคคะโตเวปะสันนานัง

นั่งสมาธิ 24 นาที ช่วงแรกตื่นตัวมาก ไล่กายจากล่างขึ้นบน แล้วดูลม แล้วเข้าสู่ช่วงเผลอไผลไหลไปคิด

13กย2564

ทำความสะอาดกุฏิ 10 นาที นั่งเฉยๆูลม 5 นาทีนั่งหลับตาดูลม 5 นาที
8.33 ถึง 8.43 เป็นโหมดทำงานเคลื่อนไหวตัว
8.43 ถึง 8.48 แปลงจากโหมดเคลื่อนไหวตัวมาเป็นสมาธิลืมตานั่งซึ่งมีแกมมาสูงนิดหน่อย
หลัง 8.48 เป็นโหมดสมาชิกนั่งหลับตา

เดินจงกรม 62 นาที ฟุ้งไปเรื่อยๆแต่ก็รู้ตัวได้อยู่เรื่อยๆ ค่อนข้างตื่นตัวแบบสบายแทบไม่ง่วงเลย มีง่วงนิดหน่อยระหว่าง q3 ไป q4

หัดสวดบท กาเล ทะทันติ สะปัญญา ง่วงมากในช่วงหลัง

หัดสวดบท กาเล ทะทันติ ต่อ

14กย2564

เดินจงกรมแบบปล่อยใจสบายๆเดิน 1 ชั่วโมงแต่บันทึกมาได้แค่ 30 นาที q 2 มีง่วงนิดๆ นอกนั้นก็สบายๆหลงเยอะรู้ตัวได้น้อยหน่อย
นั่งสมาธิ 10 นาทีแรกดูท้องพองยุบตามลมหายใจ ดูได้เล็กน้อยแต่ก็เผลอไผลไปง่วงเยอะ 3 นาทีหลังดูลมหายใจหัวใจ ง่วงแรงมาก

หลังออกกำลังกายและอาบน้ำเสร็จมานั่งสมาธิตอนที่ร่างกายยังตื่นตัวมาก เพลงทอง 10 นาทีหัวใจ 10 นาทีสมอง 10 นาทีแล้วลมหายใจธรรมดา

15กย2564
นึกถึงเรื่องความผิดพลาดในอดีตที่เคยทำผิดกับคนอื่น ในตอนนั้นเราคิดเอาเองว่าทำไปด้วยความหวังดีกับเขาแต่พอมามองย้อนหลังกลับไปกลับเห็นว่าสิ่งที่ทำไปนั้นถูกขับเคลื่อนโดย ego ของตัวเอง ใช้ตรรกะจากหัวสมองเยอะแต่ใช้เมตตาจากหัวใจน้อย วิธีการที่ใช้จึงเป็นไปอย่างไม่เหมาะสม ไร้ศิลปะในการสื่อสาร .... จึงได้เขียนข้อความไปขอโทษ โดยบอกเล่าว่าได้รับรู้เรียนรู้ถึงความผิดพลาดที่ได้ทำลงไป และ ขอบคุณที่เป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้ประสบการณ์ชีวิต.

ขณะเขียน แกรมม่าสูงไปพร้อมกับแอลฟา
ทวนปาติโมกข์ ติงส นิสัคคิยา

หลังจากจับนกmuse 30 นาทีมานั่งต่อ รู้สึกสงบตื่นตัวเป็นพิเศษ รู้สึกถึงเวทนาทึ่หัวปลายมือปลายเท้าช่องท้อง ใจหนีไปคิดน้อยช่วงท้ายหายใจแรงยาว 3 เฮือก ก่อนเลิก

หลังออกกำลังกายและอาบน้ำเสร็จมานั่งสมาธิรู้สึกสงบและตื่นตัวเป็นพิเศษ ช่วงแรกและความรู้สึกจากมือเท้าท้องอกหัวกระดูกสันหลังกะโหลก ช่วงหลังปล่อยลมหายใจสบายๆรู้ที่เวทนาทั่วกายเป็นหลักและคอยรู้ใจที่อยากจะมาบังคับข่มเหงให้ได้อย่างใจจนอึดอัด ทำให้หลุดจากความอึดอัดอันละเอียดอ่อนที่เคยติดอยู่ได้อยู่เรื่อยๆเป็นระยะ


นั่งสมาธิ 15 นาที หายใจสลับรูจมูกเป็นเวลา 4 นาที แล้วดูร่างกายเวทนาทั่วๆสบายๆ ช่วงท้ายหาว 3 ครั้ง


16กย2564
หลับตา ทวนปาฏิโมกข์ ปาจิตตี
ฟังทวนปาฏิโมกข์ที่อัดไว้ ง่วงช่วงหลัง 

ลืมตาทวนปาฏิโมกข์ส่วนที่เหลือ

ฟังทวนที่อัดไว้



นั่งสมาธิขยับมือสองท่าใน 10 นาทีแรก ดูลม 10 นาทีหลัง

เดินจงกรม 30 นาที ปกติเรื่อยๆไม่ได้ง่วงมากแล้วก็ไม่ได้สงบมาก

หลังจับนกใน muse มานั่งสมาธิต่อ ไล่กายจากท้องไปหัว 10 นาทีแล้วก็ปล่อย 10 นาที

17กย2564
นั่งสมาธิ 32 นาที เคลื่อนไหวมือสองท่า แล้วยิ้มกอดอกขอบคุณหัวใจนึกไปถึงว่าได้กอดก็กอดแม่ แล้วนั่งต่อพอตกอยู่ในช่วงง่วงก็กลับมายิ้มกอดใหม่แล้วนั่งต่อแล้วก็ง่วงอีก

อ่านหนังสือสอบนักธรรมหมวดวินัย
นั่งสมาธิไล่กระดูกขึ้นลงตื่นตัวอย่างมากมากเหมือนพลังงานมารวมตัวกันณจุดกระดูกที่กำลังไล่ดู ตอนท้ายแผ่เมตตา
18กย2564
หลังจับนกมาฟังดังตฤณ binaural beats 12 นาทีแล้วนั่งดูลม
ฟัง binaural beats ฟ้า แอลฟ่า, ส้ม แกมม่า

19กย2564

เดินจงกรม 51 นาที เดือนครั้งนี้ท้องยังรู้สึกอิ่มอยู่ แต่ก็มีง่วงน้อยมากแทบไม่มีเลย เดินแบบสบายๆใจหลงไปคิดเองและกลับมารู้ว่าหลงไปคิดได้เองอยู่เรื่อยๆ 
ลืมตาหลับตาดูลมหายใจสลับกันครั้งละ 1 นาที

นั่งเฉยๆสลับกับ plank


ยืนนับลมสลับกับ horse stance นับลม


นั่งสมาธิ 29 นาที ช่วงต้นขยับมือไปกับลมหายใจประมาณ 12 ลมหายใจ หลังทีที่ 10 ดึงพลังความตื่นตัวแบบสงบมาจากท้องช่วงล่างกระจายไปทั่วกายสักพัก ไปตามแนวกระดูกสันหลังขึ้นกะโหลกลงมาหน้าอกแล้วก็ดูลมหายใจไปเรื่อยๆ


พลังจากความตื่นตัวก่อนหน้าตกค้างรู้สึกเสียวที่ปลายมือปลายเท้าหัวพลังงานแผ่ซ่านไปทั่วกายลองนั่งสมาธิหลับตาดูลมแบบธรรมดาธรรมดาไป เหมือนจะรู้สึกตื่นตัวแต่ก็มีเหาขึ้นมาบ้างในช่วงท้าย

ตื่นตัวเสียวฟันจึงลองนั่งสมาธิเพ่งฟันเหมือนจะตื่นตัวแต่ก็มีหาวตอนท้าย

20กย2564
นั่งสมาธิ 20 นาที 10 นาทีแรกดูลม 10 นาทีหลังดึงพลังงานจากตันเถียร เหมือนจะตื่นตัวแต่ก็มีเผลอไผลและหาวจะง่วง

หลับตานั่งสมาธิ 2 นาทีสลับกับหลับตาสวดมนต์บทสะมันตาจักกะวาเฬสุ 2 นาทีทำซ้ำ 3 รอบ
ผลลัพธ์กราฟ
นั่งสมาธิเป็นไปตามมาตรฐานเดิม
การสวดมนต์จะยกระดับคลื่นทุกตัวขึ้นมา โดยเฉพาะ delta ที่เปลี่ยนแปลงเด่นชัดมาก
 แต่ยกเว้นแอลฟาที่ยังมีค่าเฉลี่ยคงเดิมตลอด แต่เมื่อเปลี่ยนจากกราฟเฉลี่ย ต่อนาทีมาแสดงเป็นกราฟแสดงค่าตามจริงทุกวินาที จะเห็นว่าในช่วงสวดมนต์แอลฟามีความแปรปรวนขึ้นๆลงๆผันผวนมากกว่าตอนนั่งสมาธิ 
ลืมตานั่งดูลม 2 นาที สลับกลับ วิดพื้น 1 นาที 9 ครั้ง ทำ 3 รอบ
ข้อสังเกตในการออกกำลังกาย การเอาทุกครั้งจะมีแกมาสูงระดับหนึ่งในเมื่อกำลังกายแกไม่จะสูงขึ้นไปอีกแต่หลังออกถ้าเก็บมาจะดรอปลงจากตอนก่อนหน้าการออก


ก่อนนั่งสมาธิง่วงมากแต่ก็ลองนั่งดู นั่งไล่ดูกระดูกก็เหมือนจะมีพลังงานจะให้ตื่นตัวขึ้นนิดหน่อยแต่ก็ยังอยู่ใต้ความง่วงนั่งไปยิ่งหาว
21กย2564
นั่งสมาธิหลังตื่นนอนก็มีง่วงเป็นปกติดูลมบ้างดูกระดูกบ้าง
Qละ 5 นาที
Q1 feel breath
when you sit in the center of your brain, feel the still(Q2), silent(Q3), space(Q4) here, and ask, “Who is having this experience?”(Q5) ช่วงท้ายมีง่วงหาวโงกเงก

คิวละ 10 นาทีเคลื่อนไหวมือ 3 ท่า ท่าละ 1 คิว หายใจลึกๆยาวๆที่เหลือหายใจสบาย


22 กย 2564

หลังจากฉีดวัคซีน covid เข็ม 2 กลับมายังที่พักรู้สึกง่วงและเพลียนิดหน่อย ลองนั่งสมาธิ 15 นาที ก่อนที่จะต้องไปทำงานตามหน้าที่รับผิดชอบ 

ระหว่างนั่งครึ่งแรกพยายามหายใจให้ลึกและยาวกว่าปกติเล็กน้อยโดยไม่ให้รู้สึกอึดอัด ใช้การเคลื่อนไหวมือเป็นตัวช่วยและหายใจเข้าจังหวะกับการเคลื่อนไหว ... 

ระหว่างนั่งครึ่งหลังปล่อยให้หายใจตามสบายแล้วรู้ลมหายใจไปเฉยๆ ...

หลังเลิกนั่งรู้สึกว่าความเพลียและง่วงนั้นหายไป ออกไปทำงานด้วยร่างกายที่สบายและสดชื่นตื่นตัว

กราฟที่ได้ก็อยู่ในแพทเทิร์นนั่งสมาธิตามธรรมดา ค่า delta สีแดงที่จะสูงกว่าการนั่งสมาธิปกตินิดหน่อยซึ่งมักจะเกิดขึ้นในกรณีที่ง่วง และ/หรือ ในกรณีที่มีการเคลื่อนไหวร่างกาย
เดินจงกลมธรรมดาธรรมดาปล่อยสบายๆดูบ้างเผื่อบ้าง รู้สึกแบบสบายๆไม่ง่วง รู้พลังงานไหลเวียนในร่างกายแบบนอนได้เป็นระยะ
23กย2564
เดินจงกรมเริ่มแรกmuseเพิ่งถูกซักเมื่อเช้ามีอาการวัดค่าไม่ค่อยได้จึงไปนำทิชชู่ชุบน้ำมาเช็ดเซ็นเซอร์และหน้าผากจึงพอใช้ได้ แต่ค่าที่วัดได้ดูเหมือนจะสูงกว่าปกติไม่แน่ใจว่าเพราะเซ็นเซอร์ทำงานพลาดหรือเปล่า
ช่วงแรกตื่นตัวดีช่วงหลังมีหาวและง่วง
ช่วงแรกเคลื่อนไหวมือหายใจตามการเคลื่อนไหวช่วงหลังนั่งดูลมแต่ส่วนใหญ่จะง่วงเผลอไหลไปในวังวนความง่วง
นั่งสมาธิ 5 นาทีสวนน้ำโม 3 จบแล้วก็อิติปิโส,สวากขาโต,สุปฏิปันโน,พุทธังสะระณังคัจฉามิ
ได้วางใจไป 3 แบบ
แบบ1 นึกถึงตัวอักษรที่กำลังสวดตัวอักษรไทยสีดำบนพื้นขาว
แบบที่ 2 รู้สึกโฟกัสไปที่การเปล่งเสียงที่ลำคอที่ปาก
แบบที่ 3 ระลึกถึงเนื้อความ ความหมายของสิ่งที่กำลังสวด
ร้องอีกรอบแบบต่อเนื่องทั้ง 3 อัน


Plank


นั่งฟังเทศน์หลังทำวัตรเย็นที่ศาลาวันนี้ไล่ดูกระดูกจากบนลงล่างรู้สึกตื่นตัวเป็นสมาธิ ไล่จากศีรษะลงมาถึงแขนขวาก็หมดเวลา กลับมาขุดจึงมาทำต่อเริ่มได้สมาธิแล้วไล่จับแขนซ้ายลงไปจนถึงปลายเท้า ช่วงแรกก็ยังไล่ไปได้เรื่อย แต่ช่วงหลังเริ่มเข้าสู่ช่วงง่วงมากและมีการหาวเยอะมาก

24กย2564
นั่งสมาธิเริ่มต้นเคลื่อนไหวมือท่า 1 ท่า 2 จนถึงจุดที่ผงกหัว  ยิ้มอ่อนๆเพื่อไม่ให้ง่วง แต่สุดท้ายก็ง่วงมากอยู่ดี แกมม่าค่อนข้างสูง alpha ช่วงหลังแปรปรวนมาก



นั่งหลับตา ออกเสียง อา อู อืม อย่างละ 7 ครั้ง แล้วนั่งดูลม ช่วงท้ายปวดขาง่วงหาว



25กย2564
หลังตื่นนอนแล้วจับนก muse แล้วมานั่งสมาธิดูลมหายใจ มีง่วงงอกแงกอีกบ้างเป็นบางช่วง

Read the book Leigh Brasington's
"Right Concentration: A Practical Guide to the Jhanas" จบบทที่2 อ่านหนังสือที่สนใจค่า gammaสูง,ในการอ่านมีเดลต้าสูง, ช่วงขยับตัวdeltaสูง
เดินจงกรมพยายามรักษาการโฟกัสอยู่ที่เท้ากระทบพื้นช่วงแรกตื่นดีช่วงหลังง่วงๆ

หนังสือต่อ จนจบบทที่ 4




นั่งสมาธิ 13 นาทีปล่อยให้ใจตามธรรมชาติช่วงหลังหาวง่วง


26กย2567

นั่งสมาธิก่อนไปบิณฑบาตไม่ง่วง

นั่งสมาธิตอนท้องอิ่ม แต่ก็ไม่ง่วง -alpha ดูตกลงมาเร็วและเยอะ



เดินจงกรม 1 ชั่วโมงเครื่องวัดมาได้ 15 นาทีตื่นตัวดีดูที่เท้าแบบสบายๆแผลเยอะหน่อยแต่ก็ลึกได้เป็นระยะ


ดูคลิปเหลือแต่ตัวรู้สังขารขันธ์ของดังตฤณแล้วนั่งสมาธิต่อที่ 2:42


Horse stance แล้วสังเกตเห็นว่าขณะออกกำลังแกมม่าและเบต้าจะสูงขึ้นและเมื่อออกกำลังเสร็จแล้วจะตกลงไปยิ่งกว่าตอนก่อนออกกำลัง


นั่งสมาธิสั้นๆสลับ plank


วันนี้ขณะจับนก muse จิตเรมเข้าที่เข้าทางเริ่มรู้ลมหายใจได้โดยไม่บังคับถ้าเผลอบังคับไปก็รู้ทันได้ไวทุกครั้งที่นกร้องจะรู้สึกถึงพลังงาน
กลางสมองและช่องท้อง รู้ลมหายใจที่เบาลง รู้สึกถึงความสุขแล้ว flow พลังงานที่เสียวซ่านแต่ตื่นตัวและสบาย เสร็จจากนั้นจึงลองมานั่งสมาธิต่อละวันด้วยmind monitor ได้ผลดังนี้
ขณะนั่งก็ตื่นตัวและรู้สึกถึงกลางหัวและช่องท้อง ผลลัพธ์เป็นโหมดสมาธิที่ยกสูงขึ้นมากว่าเดิมอีกนิดนึงทุกตัว ผลลัพธ์เป้ไปทางซ้ายมากกว่าขวา


จับนกอีกทีคล้ายครั้งก่อนจึงมานั่งสมาธิต่อนั่งคราวนี้ก็ฟินอยู่แต่ไม่มากเท่าครั้งก่อน เผลอยาวเผลอเยอะหน่อย คราวนี้ไม่เอียงซ้ายแกมม่าก็ข้างสูงกว่าปกตินิดนึง



27กย2564
นั่งสมาธิตอนเช้ามืดหลังจากนก 5 นาทีแล้วลุกขึ้นมาออกกำลังกำแบหมุนคอแล้วก็นั่งต่ออีกแป๊บนึง กราฟเอียงซ้าย



เดินศาลากลับมากุฏิเมื่อไหร่ที่ระลึกถึงลมหายใจได้ก็จะรู้สึกถึงปิติที่มากับลมหายใจ กลับมาเก็บกวาดทำความสะอาดที่พัก



คุยโทรศัพท์



เดินจงกรมตั้งแต่ต้นจนจบฟุ้งกระจายมากรู้น้อยมาก ตอนเริ่มคิวสุดท้ายพยายามตั้งใจแต่ทำไปก็ยิ่งง่วงยิ่งหาว กราฟเอียงซ้าย

นั่งสมาธิเริ่มจะเคลื่อนไหวมือนิดหน่อยแล้วดูลมสบายๆกราฟเอียงซ้าย



ก่อนหน้าจับนกในmuse มีปิติอยู่ก่อนแล้วพอมานั่งต่อวัดค่าด้วยmind monitor ดูลมหายใจ 10 ครั้งแล้วกระจายปิติโดยการเอาความรู้สึกตัวไปส่องที่ร่างกายทีละส่วนให้ครบทุกส่วนของร่างกายและเจ็บหัวลงล่างเพราะปิติกลุ่มทั่วร่างกายแล้วก็รู้สึกปิติแบบทั่วร่างกายไปพร้อมกันอีกทีเดียว กราฟ เอียงซ้าย


28กย2564
สิ่งที่เราเคยเรียกว่าพลังงานความตื่นตัวจริงๆแล้วมันคือปิตินั่นเอง เพ่งลมหายใจจนเกิดปิติอ่อนๆที่กลางหัวค่อยๆขยายขอบเขตของปิติโดยการไล่ความรู้สึกจากหัวสู่เท้าแล้วดูปิติอ่อนๆรวมๆแบบทั้งตัว กราฟอยู่กลางค่อนซ้าย

28กย2564
ทำความสะอาดที่พัก



เดินจงกรม 1 ชั่วโมง ธรรมดาในช่วงแรก แล้วเริ่มง่วงไปจนถึงตอนกลาง แล้วเริ่มตื่นตัว รู้สึกพลังงานที่ปลายมือเท้าหัวใจเต้นหัว ช่วงท้ายพยายามลองบังคับให้อยู่กับความรู้สึกตัวเยอะๆกลับปรากฏว่ากลับมาง่วงหาวนิดหน่อย



นั่งดูลมที่ปลายจมูกสักพักรอให้ลมหายใจตามธรรมชาติสั้นลงเบาลงแล้วจึงเริ่มไปเพ่งปิติที่อยู่กลางหัวแล้วค่อยๆขยายไปให้ได้ทั่วตัว แล้วพยายามหายใจลึกเพื่อให้ปิติเริ่มจางคลาย


อ่านหนังสือ right concentration จบบทที่ 6 แล้วไปอ่านวิธีแก้นิวรณ์ต่อที่ http://rc.leighb.com/more/Abandoning_the_Five_Hindrances.htm ยิ้มขำที่ประมาณ 12:40 และ 12:42



เกิดปิติแผ่ซ่านทั่วทั้งตัวตัวเด่นที่ปลายนิ้วมือ จึงเริ่มนั่งสมาธิและนั่งดูปิติไปพร้อมลมหายใจ ปิติค่อยๆอ่อนกำลังลงทีละนิดมีเผลอไปคิดบ้างบางหนแต่เมื่อกลับมาก็อยู่กับปิติต่อได้ ข้อสังเกตแอลฟามีเทรนสูงขึ้น delta ต่ำลง


หลังอาบน้ำเสร็จยังมีปิตีแผ่ซ่านตามตัวอยู่จึงนั่งสมาธิต่อนั่งไปปิติค่อยๆจางคลายลง


29กย2564
เดินจงกรมวันนี้ตอนเริ่มเดินเหมือนว่าพอจะมีปิตินิดหน่อยรู้สึกพลังงานเด่นที่กลางหัวและปลายนิ้วมือ พยายามกระจายปิติไปให้ทั่วตัวตามทฤษฏีที่เคยฟังมาว่าเวลามีปิติที่แรงเฉพาะบางส่วนให้กระจายความรับรู้ไปให้ทั่วๆตัวเพื่อให้ปิติขยายไปทั่วตัว

  เมื่อพอทำไปๆมาๆในครั้งนี้กลับปรากฏว่าปิติหายแต่เกิดหลงฟุ้งและง่วงอย่างรุนแรงจนบางทีเดินโงนเงนโซเซ และหลังจากนั้นก็มีนิวรณ์อีกหลายๆตัวผลัดกันเวียนมาแบบรุนแรงจัดเต็มสุดๆ ไม่ว่าจะเป็นราคะ โทสะ ฟุ้งซ่าน สลับไปมาอย่างรุนแรง แม้เราจะไม่ได้เรื่องในการรักษาปิติและความสงบให้คงไว้ แต่ก็ยังดีที่ยังสามารถเห็นกิเลสเหล่านี้มันเกิดขึ้นเปลี่ยนแปลงได้เป็นระยะๆโดยไม่ได้อินกับมันมากจนเกินไป 

2 ปีก่อนเคยมีช่วงหนึ่งที่เราหลงในวังวนกิเลสในใจแล้วเราเผลอไปอินกับมันจนเกินไป ใจตกอยู่ในวังวนแห่งความร้อนใจและทุกข์ใจอย่างแรงเป็นวันๆ ... ถึงแม้จะรู้ทฤษฎีในการปฏิบัติมามาก แต่ในการลงมือจริงเราก็ยังเป็นเหมือนเด็กน้อยที่ค่อยๆเรียนรู้จากความผิดพลาดครั้งแล้วครั้งเล่าแล้วค่อยๆโตไปทีละนิด...   ยังดีที่ตอนนั้นอยู่กับครูบาอาจารย์ที่เราเคารพเชื่อถือเป็นอย่างมาก พอท่านเห็นหน้าเราปุ๊บโดยที่ไม่ต้องบอกเล่าอะไรก็ชี้หน้าดุเราปั๊บว่า "ไอ้หมอนี่ใจมันกำลังพยศ" ... จากนั้นจึงได้ทวนกลับมาดูอาการที่มันเกิดในใจ ดูมันแปรปรวนเปลี่ยนไปมาๆไปๆแล้วจางหายไป กลับมาสู่โหมดปกติได้ ...

 จากนั้นมาก็ผมจึงได้คำบริกรรมศักดิ์สิทธิ์ติดตัวไว้ใช้ในเวลาที่รู้สึกว่าตัวเองกำลังเผลอหลงเป็นทุกข์ทางใจหรือกำลังร้อนใจ ว่า "ใจกำลังพยศ" ... แม้ใจอันไม่ประสีประสานี้จะใฝ่ฝันอยากจะเป็นคนที่พ้นทุกข์ พ้นกิเลส แต่ในความเป็นจริงทางปฏิบัติแล้ว ตราบเท่าที่ยังมีความทุกข์และกิเลส การรู้ทันสิ่งเหล่านั้นที่กำลังเกิดขึ้น เห็นมันตามความเป็นจริง ไม่หลงอินไปกับมัน นั่นแหละจึงจะทำให้ใจพัฒนาขึ้นมาได้ 

ในระหว่างเดินครั้งนี้ก็พิจารณาขึ้นมาในระหว่างเดินว่าตอนง่วงใจมันก็อยากให้ง่วงหาย ตอนโทสะมาก็อยากให้โทสะหาย ตอนราคะมาก็อยากให้ราคะหาย
แต่เราลืมเฉลียวใจไปเลยว่า ณ ตอนที่ตัวนึงโผล่มานั้นตัวที่อยู่ก่อนหน้านั้นที่เราอยากให้มันหายมันก็ได้หายไปแล้ว ... ความอยากมาพรางตาให้เห็นผ่านอคติของอัตตา เห็นแต่สิ่งที่ไม่พอใจ เลยไม่เห็นตามความเป็นจริง เลยจมอยู่ในความทุกข์ใจจากความไม่พอใจ มีทุกข์ซ้อนในปรากฏการณ์เพิ่มเข้าไปอีก

แล้ววันนี้ได้ไล่ดูเฉพาะกราฟเดินจงกรมที่บันทึกไว้ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา แล้วลองวิเคราะห์ดู ดูเหมือนว่า ในการเดินจงกรมส่วนใหญ่ของผมนั้น ค่า theta (ม่วง) จะต่ำกว่า alpha (ฟ้า) แบบเว้นช่องว่างประมาณนึง แต่เมื่อไหร่ก็ตาม ที่เดินจงกรม แล้วน้องม่วง theta เข้ามาตีตื้นใกล้ๆหรือขึ้นสูงกว่าน้องฟ้า alpha จะเป็นช่วงที่เรารู้สึกว่ากิเลสรุนแรงเป็นพิเศษเช่นความง่วง,ความฟุ้งซ่าน,ความพอใจ,ความไม่พอใจ ถ้าจะว่าตามทฤษฎีคือจิตใต้สำนึกเริ่มขึ้นมาอยู่เหนือจิตสำนึก

 


นั่งสมาธิ 29 นาทีตอนเริ่มนั่งรู้สึกถึงความร้อนในร่างกายเริ่มจากการดูลมหายใจที่ช่องปลายจมูกรู้สึกถึงไอร้อนที่พ่นออกมาจากจมูกและลมหายใจพอนั่งไปสักพักที่ 16:18 เริ่มเข้าโหมดง่วงจึงลองเปลี่ยนโหมดจากดูลมมาเป็นบอดี้สแกนเน้นกระดูกจากเท้าขึ้นหัวมาหัวใจ เปลี่ยนแนวทำให้ alpha ตกลงมานิดหน่อย รู้สึกตื่นตัวขึ้นเหมือนปิติเล็กๆวิ่งตามกระดูก



สมาธิอยู่กับลมหายใจได้ดีเข้าถึงความสงบสงบได้เยอะฟุ้งน้อย


30กย2564
เดินจงกรมแบบสบายๆรู้บ้างเผลอบ้างสงบบ้างฟุ้งซ่านบ้าง

นั่งสมาธิค่อยๆง่วงขึ้นเรื่อยๆ


ฟังแอพ rov หัวข้อ cultivating compassion เริ่มปิดตา ช่วง5 นาทีตอนท้ายเปิดตา


ผ่อนคลายมือเท้าหัวนั่งยืดหลังตรงดูท้องพองยุบ ตื่นตัวและสงบ

นั่งหายใจยาวๆลึกๆแล้วย้ายมาดูหัวใจแล้วย้ายมาท้องแล้วย้ายมาหัวแล้วกลับมาหัวใจ

นั่งสมาธิ 1 ชั่วโมงดูลมในเบื้องต้นดูปวดขาในเบื้องปลาย



















ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ประสบการณ์การใช้ muse S วัดคลื่นสมอง

สนุกกับการวิเคราะห์คลื่นสมอง

การคิดคะแนนของ Muse

ว่าด้วยเรื่องการเดินจงกรม

บันทึกประจำวันคลื่นสมองด้วย muse ผ่านแอพ mind monitor