บันทึกประจำวันคลื่นสมอง หน้า4 (พฤศจิกายน 2564)

- พฤศจิกายน 02, 2564

2พย2564

นั่งสมาธิตอนตื่นนอน

นั่งสมาธิหลังอาบน้ำเสร็จ

4พย2564

ตื่นนอนนั่งสมาธินับลมหายใจเพ่งลมที่ปลายจมูก

นั่งสมาธิ 20 นาทีเริ่มจะเคลื่อนไหวมือ 20 ครั้งแล้วดูการเต้นหัวใจ

หลังจับนก muse ตอนท้ายนั่งหาวหวอดหวอด

5พย2564

นั่งสมาธิ 9 นาที

วันนี้ฉันกาแฟที่โรงน้ำร้อนหลังจากที่ไม่ได้ใช้มานานเพราะเวลาฉันมักจะใจเต้นแรง แต่คราวนี้ใจไม่เต้นแรงแต่ก็ตื่นตัวดี ก่อนการวัดครั้งนี้ได้ทำการนั่งจับนกใน muse app แล้วจากนั้นได้นั่งสมาธิวัดึ่าด้วย mind monitor มาก่อนอีกรอบหนึ่งแต่การบันทึกมีปัญหาไม่ได้บันทึกไว้ จึงนั่งต่ออีกรอบ สำหรับรอบนี้ก็มีการทำหลายสิ่งอย่างสลับไปมา -ดูลมหายใจ -ไร่ดูร่างกายขึ้นลงทีละส่วน -ดูความคิดและอารมณที่ผุดขึ้นมาปรากฏคงอยู่และหายไป -ดูปิติที่เกิดในแต่ละส่วน -ดูร่างกายทั่วๆไปพร้อมๆกัน -ดูความนิ่งเทียบกับความเคลื่อนไหวในยามลมหายใจเข้าออกและหยุดในระหว่าง

มีความรู้สึกตื่นตัวมากเป็นพิเศษ และครั้งนี้กราฟมาแปลกกว่าการนั่งสมาธิครั้งอื่นๆ

-ค่าแอลฟ่า (สีฟ้า-ความสงบผ่อนคลาย)สูงมากเป็นพิเศษ อื่นๆมาก

-มีการไต่ระดับขึ้นลงๆของแกมม่า (สีส้ม-ความตื่นตัวของสมองทั้งระบบ) เนื่องจากทำไปหลายอย่างจำลำดับไม่ได้ว่าทำอะไรตอนไหนบ้างจึงไม่รู้ว่าการทำอะไรแบบไหนที่ทำให้แกมม่าสูงเด่นขึ้นมา แต่ก็เป็นครั้งแรก(ที่มีการวัดค่าได้)ที่มีค่าแกมมาสูงขึ้นขนาดนี้ในระหว่างนั่งสมาธิ

ค่าแอลฟ่า(สีฟ้า) มีแหล่งกำเนิดเด่นสุดที่สมองด้านหลัง

ค่าอื่นๆไป เด่นที่สมองด้านหน้าซ้าย(AF7)

สมองด้านหน้าขวา(AF8) มีกราฟค่อนข้างคงที่ไม่ค่อยแปรปรวนเหมือนสมองส่วนอื่น

นั่งสมาธิไล่ดูกายบ้างดูลมบ้าง

6พย2564

รู้สึกถึงความอึดอัดขัดแน่นในอกเวลาดูลมหายใจ พยายามดูความรู้สึกอึดอัดอันนั้นความพยายามผลักไส ก็รู้ได้บ้างหลงไปบ้าง

วัดคลื่นสมองขณะเขียนบทความสมอง 4 ส่วน

สมองด้านหน้าทางซ้ายดูมีแนวโน้มค่อยๆลดความแรงลงเรื่อยๆ แต่ด้านหน้าทางขวามีแนวโน้มค่อนข้างคงตัว

มีค่าเบต้าเด่นกว่าทางขวาเป็นอย่างมาก

ด้านหลังทั้งสองข้างมีลักษณะคล้ายกันแต่ซ้ายจะมีเบต้าและแกรมม่าสูงกว่าเล็กน้อย

เดินจงกรม 1 ชั่วโมง มีความรู้สึกอึดอัดอยู่ในอก แต่ก็ดูไปเรื่อยๆรู้บ้างหลงบ้าง

หน้าซ้ายมีแนวโน้มลดลงเรื่อยๆโดยเฉพาะแกมม่า

ในการเดินเดลต้าหน้าขวาสูงกว่าหน้าซ้าย

หลังซ้ายคลื่นแรงสุด

นั่งสมาธิ 47 นาที ไล่ความรู้สึกตามกายจากบนลงล่างจากล่างขึ้นบน เวลาเพ่งไปที่ตำแหน่งไหนจะรู้สึกมีก้อนพลังงานอย่างแรงอยู่ณตำแหน่งนั้นด้วย ช่วงท้ายหาวเยอะ

หลังซ้ายเด่นสุด

หน้าซ้าย ตกลงมาเรื่อยๆ มี gamma และ beta เด่น

หน้าขวาคงที่patternสมาธิ

7พย2564

การบริหารยามเช้ามืดท่ากำแบแล้วตามด้วยนั่งสมาธิ ผงกหัวที่5.02.3x

ครั้งนี้หลังขวามี gamma beta สูงกว่าหลังซ้าย

หลังซ้ายแกมมาผันผวน

นั่งสมาธิ

นั่งสมาธิ กลับมาเป็นแบบมาตรฐาน

8พย2564

นั่งสมาธิ 17 นาทีก่อนจับนก

9พย2564

นั่งสมาธิเช้ามืด

เช้านี้เริ่มมีลมหนาวมาที่บึงกาฬ ฉันเสร็จ มาเดินจงกรมตอนอุณหภูมิ 20 องศา มีความง่วงฝุดมาประปราย มีหลายทีเผลอยืนหลับฝันคณะหยุดตรงปลายทางจงกรม

นั่งสมาธิ Micro cosmic orbit

นั่งสมาธิก่อนจับนก

หลังจับนกmuse 15 นาที

10พย2564

สมาธิหลังอาบน้ำเสร็จตั้งใจดูลมที่ปลายจมูกแต่ก็มีหลุดหายอยู่เรื่อยๆ

จับนก muse เสร็จแล้วมาสวดมนต์เสร็จแล้วมานั่งสมาธิ

11พย2564

นั่งสมาธิเช้ามืดช่วงท้ายหาวหวอดๆ

นั่งสมาธิเริ่มจากฟังเสียงความเงียบ แล้วเกิดอะไรขึ้นก็รับรู้การรับรู้

12พย2564

นั่งสมาธิ 13 นาที

นั่งสมาธิ 41 นาที หลังออกกําลัง

นั่งสมาธิ 19 นาทีหลังอาบน้ำอากาศเย็น 24 องศา

นั่งสมาธิ 23 นาทีหลังจับนก muse

13พย2564

เดินจงกรมอุณหภูมิ 19 องศา

นั่งสมาธิก่อนนั่งง่วงนิดๆ ขณะนั่งไล่กายจากล่างขึ้นบนบนลงล่างก็พอตื่นอยู่แต่ช่วงครึ่งหลังเริ่มง่วงอีกที

นั่งสมาธิหลังอาบน้ำเสร็จ

ดีศีรู

15พย2564

อุณหภูมิ 25 องศา หลังอาบน้ำเย็นเสร็จแล้วรู้สึกตื่นตัวดีมานั่งสมาธิต่อ บริกรรมพุทโธ 20 นาทีแรก ดูกาย 20 นาทีหลัง

ความเปลี่ยนแปลงของกราฟที่เห็นได้ชัดจากการวัดค่าอย่างต่อเนื่องมาเรื่อยๆตลอด 4 เดือน พบว่าค่าแกมม่าในระหว่างนั่งสมาธิมีแนวโน้มสูงขึ้นมาเรื่อยๆ

ตอนได้เครื่องmuse มาใหม่ๆ ขายแกมมาตอนนั่งสมาธิจะอยู่ที่ประมาณ 30

หลังจากนั้นสองเดือนหลังเริ่มมีไต่ระดับไปๆมาๆระดับ 30ถึง45

วันนี้ขึ้นมาเป็น 50

ในเชิงทฤษฎีเขาว่าแกมมาเป็นผลที่แสดงให้ทราบถึงการทำงานประสานกันของสมองทั้งระบบ แต่ในทางปฏิบัติตัวผมเองก็ยังไม่แน่ใจว่า gamma สูงกับต่ำจะต่างกันยังไงในความรู้สึกของผู้ทำสมาธิ เพราะที่ผ่านมาการนั่งสมาธิตลาดครั้งค่าแกมม่าของผมค่อนข้างจะคงที่ แต่เมื่อวัดค่าไปเรื่อยๆเป็นเวลาหลายเดือนจึงเห็นว่ามันค่อยๆปรับตัวขึ้นเรื่อยๆ ที่ละนิด

เท่าที่คาดเดาเอาเองจากการนึกย้อนการปฏิบัติของตัวเองแบบรายเดือนก็รู้สึกเหมือนกับว่า ยิ่งgammaสูงขึ้น จะมีความตื่นตัวในการรับรู้และอยู่กรรมฐานที่กำลังทำมากขึ้น