กรณีศึกษา วิเคราะห์คลื่นสมอง

 มีผู้ส่งกราฟที่วัดด้วยเครื่อง muse ผ่านแอพ mind monitor เข้ามาสอบถามดังนี้

รบกวนสอบถามผล muse หน่อยค่า สงสัยว่าการที่เส้นทับกันหรือแยกกันแตกต่างกันหรือไม่ อย่างไรคะ พอมีอะไรที่บ่งชี้ได้มั้ยคะ หรือไม่สามารถสรุปได้ ขอบคุณค่ะ 


กราฟ 1 - 3 กันยายน 2564กราฟ 2 - 1 กันยายน 2564กราฟ 3 - 31 สิงหาคม 2564

สองอันบนเป็นดูลมหายใจ อันล่างสุดช่วงแดงเขียวทับกัน เป็นบริกรรมพุทโธค่ะ ขอบคุณมากค่า 

Ps. ช่วงหลังๆของกราฟทั้ง 3 ประมาณ 5-10นาทีสุดท้าย ที่กราฟเหวี่ยงขึ้น คือตอนแผ่เมตตาเจ้าค่ะ 


ผมพึ่งศึกษาเรื่องคลื่นสมองไม่นาน ยังรู้สึกว่าตัวเองยังรู้น้อยอยู่ แต่ก็จะลองวิเคราะห์ตามความรู้ที่พอจะมีในตอนนี้ 


ก่อนอื่น ถ้ายังจำไม่ได้ว่า / alpha, beta นั้น ดีไม่ดียังไง? / สีไหนคืออะไร? / pattern นั่งสมาธิเป็นยังไง? / ก็ให้ลองแวะไปอ่านข้อมูลอีกทีก่อนได้ที่ https://bodhineuro.blogspot.com/2021/07/blog-post_31.html


กราฟ 1 - 3 กันยายน 2564

กราฟแรก เริ่มต้นขึ้นมานั้น beta ค่อนข้างสูง ซึ่งจากตรงนี้คาดเดาว่า เกิดจากการใช้ชีวิตที่ส่วนใหญ่อยู่แต่ในโหมดความคิด ซึ่งก็มีแนวโน้มนำมาสู่วังวนของความเครียด วิตก กังวล เช่นเดียวกันกับคนส่วนใหญ่ในยุคปัจจุบันทุกวันนี้

แต่พอนั่งไปเรื่อยๆ ค่าเบต้าค่อยๆลดลง กราฟเริ่มเข้าสู่แนวโน้มของโหมดนั่งสมาธิมากขึ้นเรื่อยๆ แสดงว่าสามารถรักษาโฟกัสอยู่ที่ลมหายใจได้เรื่อยๆ แม้ถ้าจะมีเผลอบ้างหลุดบ้างแต่ก็กลับมาที่โหมดนี้อยู่ได้เรื่อยๆตลอดชั่วโมงกว่าๆ 

ส่วนช่วงหลัง 11.45 มีค่าแกมม่าสูง เพราะแผ่เมตตา ... ก็ดูเหมือนว่าน่าจะเป็นไปตามทฤษฎี ที่ว่าค่าแกมม่าสื่อถึงพลังความรักความเมตตาแบบไม่มีเงื่อนไข

กราฟ 2 - 1 กันยายน 2564
กราฟที่ 2 กราฟครั้งนี้นั่งแล้วสามารถเข้าโหมดสมาธิได้ทันที  เพียงแต่ว่าหากเทียบกับคนที่ฝึกสมาธิประจำ ค่า beta ยังสูง และ alpha ยังต่ำกว่า   อย่างไรก็ตามถ้ามีวินัยในตนเอง ฝึกฝนอย่างนี้ทุกวันไปเรื่อยๆ เชื่อว่า จะทำให้ alpha สูงขึ้นเรื่อยๆ และ beta จะต่ำลงเรื่อยๆ เช่นเดียวกับผู้ที่ออกกำลังกายประจำจะมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรงขึ้นเรื่อยๆ แต่ต้องอาศัยความสม่ำเสมอและความมีวินัยในตนเองทำไปเรื่อยๆ

กราฟ 3 - 31 สิงหาคม 2564

กราฟที่ 3 มีลองกรรมฐานอื่นมีการแกว่งของกราฟไปบ้าง แต่ก็ยังถือว่าน่าจะอยู่ในโหมดสมาธิอยู่ ส่วนตอนท้ายที่แผ่เมตตามี gamma สูงขึ้นชัดเจน

สรุปรวม

 คิดเห็นว่านั่งสมาธิมาได้ถูกทางในเบื้องต้นแล้ว สมองสามารถเปลี่ยนจากโหมดคิด มาเป็น โหมดรับรู้ รู้สึกอยู่กับประสบการณ์จริงที่เกิดขึ้นในกายตนในปัจจุบันได้


และคิดเห็นว่า ถ้าทำต่อไปเรื่อยๆอย่างต่อเนื่องอย่างนี้ทุกวันจะยิ่งพัฒนาค่า alpha ได้สูงขึ้นเรื่อยๆและเบต้าต่ำลงเรื่อยๆ


ขออนุโมทนากับความตั้งใจอันดีในการพัฒนาศักยภาพทางจิตของตนเอง และขอเป็นกำลังใจให้ทำอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆสม่ำเสมอ


และอยากจะขอให้เอากราฟจากการปฏิบัติมาแบ่งปันกันให้ดูเป็นระยะ

 เพราะตัวผมเองก็กำลังอยู่ในช่วงศึกษาคลื่นสมอง อยากรู้ว่าต้องใช้เวลาฝึกนานแค่ไหนในการเปลี่ยนคลื่นอัลฟาให้สูงขึ้นและเบต้าให้ต่ำลง ให้เพื่อนๆได้ร่วมเห็นพัฒนาการ และ สิ่งที่ดีสุดก็คือการที่คุณเองได้พัฒนาศักยภาพทางจิตตนเองขึ้นเรื่อยๆ มีศักยภาพที่จะมีชีวิตอยู่อย่างมีความฉลาดทางอารมณ์มากขึ้น เป็นสุขมากขึ้นและทุกข์น้อยลงขึ้นเรื่อยๆ


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ประสบการณ์การใช้ muse S วัดคลื่นสมอง

สนุกกับการวิเคราะห์คลื่นสมอง

การคิดคะแนนของ Muse

ว่าด้วยเรื่องการเดินจงกรม

บันทึกประจำวันคลื่นสมองด้วย muse ผ่านแอพ mind monitor